- รายได้/โบนัส/สวัสดิการ: บริษัทที่ผลกำไรลดลงจากภาคการส่งออก อาจมีการ ชะลอการขึ้นเงินเดือน, ลดโบนัสประจำปี, หรือทบทวนสวัสดิการ ซึ่งกระทบต่อขวัญกำลังใจและกำลังซื้อของพนักงาน
ในการกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเป็นสมัยที่สอง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ขู่ว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรหรือกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
- นัย: เป็นการสร้างกำแพงภาษีพื้นฐานที่ทุกประเทศต้องเผชิญเหมือนกันหมด
- การบริโภคสินค้าคงทน: ชนชั้นกลางอาจ ชะลอการตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์ บ้าน คอนโด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หรือความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของรายได้ในอนาคต
"ปัญหานี้ใหญ่เกินกว่าที่ผมจะแก้ไขได้" ชีวิตเกษตรกรจีน ที่ต้องอยู่กับเหมืองยักษ์ผลิตแรร์เอิร์ธครึ่งหนึ่งของโลก
- พิจารณาลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน ซึ่งมีรายงานว่า มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยระบุว่า "แคนาดาจะตอบโต้ และ [คำสั่ง] ทุกอย่างพร้อมแล้วบนโต๊ะทำงาน"
รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นจีน เม็กซิโก และแคนาดา ล้วนเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของสหรัฐฯ ดังนั้น การปรับเพิ่มภาษีนำเข้าก็อาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เผชิญกับความยากลำบากมากขึ้น และในทางตรงกันข้ามก็ยังทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับราคาสินค้าแพงขึ้นด้วย
“นี่คือวันปลดแอก” นายทรัมป์กล่าว และเสริมว่า “นี่จะเป็นวันที่ได้รับการจดจำตลอดไปในฐานะวันที่อุตสาหกรรมอเมริกันได้เกิดใหม่อีกครั้ง Trump ตั้งกำแพงภาษี วันที่โชคชะตาของอเมริกาถูกนำกลับคืนมา”
อย่างไรก็ตาม เราได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อกับท่าน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบการค้าที่สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น เราจึงขอเชิญประเทศไทยเข้ามามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอันน่าอัศจรรย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง
ประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยกดดันต่อภาคการผลิตของไทยซึ่งเดิมยังคงไม่ฟื้นตัว จะเห็นปัจจัยที่มีผลกระทบที่ชัดเจนต่อเศรษฐกิจของไทยที่มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม “ไทยยังต้องเผชิญกับการไหลบ่าของสินค้าจากประเทศอื่นๆ ที่แสวงหาตลาดทดแทนสหรัฐฯ ดังนั้น การเร่งสร้างมาตรการรองรับ รวมถึงการเพิ่มความตระหนักให้ผู้ซื้อพิจารณาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดดุลการค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”
นอกจากนี้ ยังพบว่าปริมาณการส่งออกสินค้าจากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการตั้งกำแพงภาษีที่สูงลิ่วต่อจีน ส่วนหนึ่งมาจากสินค้าเหล่านั้นมีราคาถูกกว่าสินค้าจากจีนสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกัน และเหตุผลบางส่วนก็มาจากมีบริษัทจีนหลายรายย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเหล่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ